วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวสารฟุตบอลชุดขาวเด่นขึ้นรับรายได้สูงสุดในโลก,เฮนโด้ vs คอสต้า

หวิดมีมวย เฮนโด้ vs คอสต้า เกือบไฝว้กันหลังเกม



border=0



ล่าสุดแข้งโปรแกรมบอล ทีมหงส์แดง - กรุ๊ปสิงห์บลู  ได้มีเรื่องกันหลังจบเกมแคปิตอล วัน คัพ จนกระทั่งวันอังคารที่ลอด เพราะว่าได้มีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน จนเกือบวางมวย ซึ่งเชื่อว่าเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ดีเอโก้ คอสต้า ที่เถียงกันมาตั้งแต่ในเกม

ภายหลังที่ เดอะ การ์เดี้ยน ที่เป็นสื่อดังแดนผู้ดีได้วิเคราะห์ผลบอลแฉ เกมจบอารมณ์ไม่จบ พอนักเตะ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล พร้อมกับ เหล่าสิงห์บลูส์ เชลซี    ซึ่งเป็น 2 คณะยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่ามีเรื่องทะเลาะกันหลังจบเกม ศึกแคปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ณ สนามแอนฟิลด์ ที่เสมอกันไปผลบอล 1 - 1 พอคืนวันอังคารที่ทะลุทะลวงมา

ทั้งนี้ ได้คาดกันว่านักเตะคู่กรณีน่าจักเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นรองกัปตันกลุ่มเจ้าบ้าน กับ ดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกเลือกระฉ่อนดร้อนของกรุ๊ปเยือน เพราะทั้งคู่มีปากเสียงกันตั้งแต่จังหวะในเกมแล้ว ซึ่งครั้นเมื่อทั้งคู่เดินเข้าอุโมงค์สู่ห้องแต่งตัว ก็ยังไม่ลดราวาศอก จนถึงขั้นผลักอกเตรียมวางมวยกัน แต่ยังดีที่ถูกแยกออกจากกันก่อนจักมีการ ให้เป็นอิสระหมัด เพราะบรรดาสตาฟฟ์โค้ชพร้อมทั้งเพื่อนร่วมกรุ๊ปของทั้งคู่

เพราะตารางบอลที่ชนวนขัดแย้งเริ่มต้นมาจากที่ เชส ฟาเบรกาส กองกลางตัวเก่งของ เชลซี พยายามขวางการเล่นฟรีคิกเร็วของ เฮนเดอร์สัน ก่อนที่ คอสต้า กับมิดฟิลด์หงส์แดง จักมีการโต้คารมพร้อมด้วยผลักอกกันเล็กน้อยนั่นเอง


ในรอบ 10 ปีติด! ชุดขาวผงาดขึ้นรับรายได้สูงสุดในโลกตามคาด





เหล่าราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ในลาลีกา ซิวตำแหน่งสโมสรฟุตบอลที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2015

ซึ่งคราวทำรายได้เข้าสโมสรได้ถึง 549.5 ล้านยูโร ซึ่งสูงที่สุดเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน ส่วนอันดับสอง ตามมาห่างๆ คือ พวกผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเงินพุ่งจากปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 518 ล้านยูโร

เพราะทาง เดลอยท์ ฟุตบอล มันนี่ ลีก ไม่ใช่หรือ Deloitte Football Money League ได้เปิดเผยการจัดอันดับสโมสรที่ทำรายได้สูงที่สุดประจำปี 2015 ปรากฎว่า แชมป์ทำเงินมากสุดก็คือ เหล่าราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน เมื่อทำรายได้เป็นจำนวนเงินถึง 549.5 ล้านยูโร หรือว่า 20,755 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน




ซึงลำดับต่อมาเป็น เหล่าผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมู่ดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับสองปีนี้ จากเดิมปีที่แล้ว 2014 อยู่ที่สี่เท่านั้น จากตัวเลขก่อนหน้า 423.8 ล้านยูโร หรือไม่ก็ 16,000 ล้านบาท ทะยานเป็น 518 ล้านยูโร หรือว่า 19,565 ล้านบาท

ในอันดับ 3 ตกเป็นของ ฝ่ายเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ยอดคณะแห่งบุนเดสลีก้า เยอรมัน มีรายได้อยู่ที่ 487.5 ล้านยูโร ไม่ก็ 18,400 ล้านบาท

อันดับที่ 4 กรุ๊ปบาร์เซโลน่า ร่วงจากที่สองปีที่แล้ว ลงมาอยู่ที่ 4 กวาดไป 484.6 ล้านยูโร ไม่ใช่หรือ 18,300 ล้านบาท

ในอันดับ 5 นั้นยังคงที่ เป็น พวกปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีรายได้ 474.2 ล้านยูโร หรือไม่ก็ 17,900 ล้านบาท

โดยอันดับที่ 6 - 20 ประกอบไปด้วยฝ่ายดังมากมาย ดังนี้

  6. กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 346.5 ล้านปอนด์ เหรอ 18,018 ล้านบาท
  7. กรุ๊ปเชลซี พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 324.4 ล้านปอนด์ หรือไม่ 16,868.8 ล้านบาท
  8. ทีมอาร์เซน่อล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 300.5 ล้านปอนด์ หรือว่า 15,626 ล้านบาท
  9. คณะลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 255.8 ล้านปอนด์ ไม่ใช่หรือ 13,301.6 ล้านบาท
10. หมู่ยูเวนตุส ลีกอิตาลี - 233.6 ล้านปอนด์ หรือ 12,147.2 ล้านบาท
11. หมู่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลีกเยอรมัน - 218.7 ไม่ใช่หรือ 11,372.4 ล้านบาท
12. ทีมเอซี มิลาน ลีกอิตาลี - 208.8 หรือไม่ก็ 10,857.6 ล้านบาท
13. พวกท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 180.5 หรือไม่ 9,386 ล้านบาท
14. ทีมชาลเก้ 04 ลีกเยอรมัน - 178.9 ไม่ใช่หรือ 9,302.8 ล้านบาท
15. ทีมแอตเลติโก มาดริด ลีกสเปน - 142.1 ไม่ก็ 7,389.2 ล้านบาท
16. เหล่านาโปลี ลีกอิตาลี - 137.8 ไม่ใช่หรือ 7,165.6 ล้านบาท
17. กรุ๊ปอินเตอร์ มิลาน ลีกอิตาลี - 137.1 หรือ 7,129.2 ล้านบาท
18. หมู่กาลาตาซาราย ลีกตุรกี - 135.4 ใช่ไหม 7,040.8 ล้านบาท
19. หมู่นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 129.7 หรือไม่ 6,744.4 ล้านบาท
20. ทีมเอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - 120.5 เหรอ 6,266 ล้านบาท





วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวคราวบอล: ทัศนียภาพตกชุดชิงชัยใหม่ คณะผี - คณะหงส์ ซีซั่นเค้าหน้า

เป็นยังไงกันมั่ง ภาพหลุดชุดแข่งใหม่ ทีมผี - ฝ่ายหงส์ ซีซั่นหน้า





ทางแฟนบอลจักว่ายังไงบ้าง? ที่ปางจู่ ๆ ก็มีมือดี ให้เป็นอิสระภาพหลุดชุดแข่งใหม่ของกรุ๊ปที่จักใช้ในฤดูกาลใหม่ โดยภาพที่ ปลงมา เป็นภาพชุดแข่งของ เหล่าผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมทั้ง กรุ๊ปหงส์แดง ลิเวอร์พูล 2 ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก

ซึ่งวิเคราะห์ผลบอลทางฝั่ง เหล่าผีแดง ในชุดเป็นชุดเหล่าเหย้าสีแดงเป็นหลักตามธรรมเนียม ออกแบบเพราะ Adidas มีลักษณะเป็นคอวี พร้อมมีแถบสีขาว 3 เส้นพาดอยู่ตรงบริเวณหัวไหล่ ตรงปลายแขนเสื้อใช้เป็นสีขาวสลับแดง ส่วนด้านข้างลำตัวออกแบบให้มีลวดลายตาข่ายเพื่อใช้ระบายความร้อน พร้อมโลโก้ เชฟโรเล็ต บริษัทผลิตรถยนต์ระดับโลก ที่เป็นเป็นสปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อ




ทางส่วน หมู่หงส์แดง นั้นหนักยิ่งกว่า ทันทีที่มีภาพหลุดตารางบอลออกมาครบทั้ง ชุดเหย้า กับ ชุดเยือนในเว็บไซต์ ฟุตตี้ เฮดไลน์ส เพราะว่าชุดเหย้านั้นจักยังคงเป็นสีแดง ออกแบบเพราะ นิว บาลานซ์ พร้อมกับใส่ลายตารางหมากรุกไว้ในเสื้อด้วย ขณะที่ชุดเยือนจะเป็นชุดสีขาว ส่วนชุดแข่งสีดำจะเป็นชุดแบบที่ 3 พร้อมกับคาดว่า ชุดแข่งของลิเวอร์พูลน่าจักเริ่มต้นวางขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้




พร้อมด้วยด้วยว่าเว็ปไซต์ ฟุตตี้ เฮดไลน์ส นั้น ถือเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นชื่อในการเปิดตีแผ่ภาพชุดแข่งออกมาก่อนกำหนด ซึ่งที่ลอดมาส่วนมากมันจักถูกต้องเสียด้วย

ติดตามชม ไฮไลท์ฟุตบอล โปรแกรมบอล ผลบอล เพิ่มเติมได้ที่ http://event.sanook.com/football/

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

ปัจจุบันตัวนำฟุตบอลราวกับจัด 11 แข้งประดุจ ไม่เคยชินเชยชมแชมป์พรีเมียร์ลีก

ล่าสุดสื่อดังจัด 11 แข้งดัง ไม่เคยสัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีก





ทันทีที่เดลี่ เมล์ Daily Mail ได้แท็บลอยด์หัวดังแห่งเกาะอังกฤษ ได้จัด 11 นักเตะที่อยู่ในหัวอกเดียวกัน ด้วยระบบฝ่าย 3-5-2 ที่ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยพรีเมียร์ลีก อังกฤษแม้แต่ครั้งเดียว

ซึ่งนำมาเพราะว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตัน พวกลิเวอร์พูล ที่เตรียมอำลาสังเวียน หลังจบฤดูกาล 2014 - 2015 พร้อมกับอีก 10 ราย อาทิเช่น เพื่อนเก่าอย่าง แบรด ฟรีเดล นายทวารชาวอเมริกัน ด้วยกัน เจมี คาร์ราเกอร์ รวมถึง แกเร็ธ เบล แข้งค่าตัวแพงสุดในโลกด้วย

พร้อมกับส่วนที่เหฟุ้งเฟื่องจักเป็นใครกันบ้าง เราลองไปชมกันเลย

รายการ 11 นักเตะดังที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ




1.แบรด ฟรีเดล ตำแหน่งผู้รักษาประตู

ผู้ที่สร้างสถิติเฝ้าเสาติดต่อกันนานสุด 310 เกม ของ ศึกพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2004 ถึง เดือนตุลาคม ปี 2012 ถึงแม้จะเป็นนายทวารฝีมือดีคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ ทว่าตลอดระยะเวลา 17 ปี กับ

  1. พวกลิเวอร์พูล
  2. เหล่าแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
  3. ฝ่ายแอสตัน วิลลา 
  4. กลุ่มท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 

ด้วยกันด้วยอายุอานามล่วงเลยมาถึง 43 ปี ก็ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เลย





2.เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำแหน่งกองหลัง

หลังจากวิเคราะห์ผลบอลที่ได้สวมบทผู้แชร์ความเจ็บปวดกับ เจอร์ราร์ด คว้าแชมป์ร่วมกันมาทั้ง

  1. ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
  2. ยูฟ่า คัพ ใช่ไหม ยูโรป้าลีก ในปัจจุบัน 
  3. ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
  4. เอฟเอ คัพ 2 กาลสมัย 
  5. แคปิตอล วัน คัพ 3 คราว 
  6. คอมมูนิตี้ ชิลด์ 


ซึ่งยกเว้น พรีเมียร์ลีก ตลอดระยะเวลา 17 ปี ตัวของคาร์ร่า จัดเป็นกองหลังที่ผลงานคงเส้นคงวามากสุดๆ คนหนึ่งของวงการลูกหนัง





3.มาร์เซล เดอไซญี่ ตำแหน่งกองหลัง

เขานั้นเป็นหนึ่งในสุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กระดับโลก รับใช้ คณะเชลซี มานาน 6 ปี สัมผัสเกียรติยศสูงสุดทั้งแชมป์ ฟุตบอลโลก และ ศึกยูโร กับ กรุ๊ปชาติฝรั่งเศส แต่ว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรกับยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน คว้าแชมป์ระดับสโมสรเช่น

  1. เอฟเอ คัพ
  2. ยูฟา ซูเปอร์คัพ 
  3. แชริตี ชิลด์ 


นอกเหนือจากแชมป์ฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2 กาลสมัย กับ กรุ๊ปโอลิมปิก มาร์กเซย กับ กลุ่มเอซี มิลาน






4.เลดลี่ย์ คิง ตำแหน่งกองหลัง

ซึ่งสมมติว่าจักเทียบความสมรรถกันแล้ว ด้วย คิง จัดเป็นกองหลังระดับหัวแถวของเกาะอังกฤษ แต่เจอปัญหาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรัง ทำให้ชีวิตการค้าแข้งไม่ราบรื่นนัก เคยถูก แฮร์รี เรดแนปป์ อดีตเจ้านาย ยกย่องในฐานะนักเตะมหัศจรรย์ เพราะว่าไม่ทำได้เตะบอลเต็มแรงระหว่างการซ้อม พร้อมกับลงสนาม 1 เกมต่ออาทิตย์ ทว่ายังคงเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ คณะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พาฝ่ายคว้าแชมป์ ลีก คัพ ปี 2009 เพียงใบเดียว ตลอดระยะเวลา 13 ปี





5.ดาวิด ชิโนล่า ตำแหน่งปีก

เขาก็เป็นกำลังสำคัญของ ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเคยกุมความได้เปรียบเหนือ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 10 แต้ม ฤดูกาล 1995-96 แต่กลับปิดซีซันพ่าย ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แทบ 4 แต้ม




6.สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำแหน่งกองกลาง

ขึ้นทำเนียบนักเตะดีสุดที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ทำได้ใกล้เคียงสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว กับถูกหลอกหลอนจังหวะลื่นล้ม เกมพ่าย เชลซี คาบ้าน 0-2 เป็นเหตุให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี แซงเข้าวิน ด้วยช่องว่างปาง 2 แต้ม





7.แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ตำแหน่งกองกลาง

เขานั้นไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือตลอด ถึงแม้โดดเด่นจากทักษะ พร้อมทั้งการซัลโวประตูสุดสวยกับ เซาแธมป์ตัน ซึ่งไม่เคยหยิบยื่นโอกาสประสบความสำเร็จรายการใดๆ เลย แต่ก็ถือเป็นกองกลางที่มีฝีเท้าฉกาจคนหนึ่งในเกาะอังกฤษ




8.เชส ฟาเบรกาส ตำแหน่งกองกลาง

ภายหลังที่ได้ลงเล่นโปรแกรมบอลเกม ลีก คัพ ฤดูกาล 2003 - 2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับ กรุ๊ปอาร์เซนอล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้าย แต่ยังไม่มีชื่อติดฝ่ายชุดใหญ่ จึงไม่ได้รับเหรียญชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม แต่เจ้าตัว มีสิทธิ์ทำสำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ เชลซี ในซีซันนี้




9.แกเร็ธ เบล ตำแหน่งปีก

หลังจากที่ได้อำลาจากถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ด้วยค่าจ้างอันเป็นสถิติสูงสุดของโลก 86 ล้านปอนด์ ใช่ไหม 4.3 พันล้านบาท แบบไม่เคยชูโทรฟี่ใดๆ บนเกาะอังกฤษเลย แต่หลังขนส่งไปอยู่ หมู่เรอัล มาดริด กับรอบรู้หยิบแชมป์ 4 รายการ ภายใน 18 เดือน




10.จิอันฟรังโก้ โซล่า ตำแหน่งกองหน้า

ซึ่งเขานั้นเคยคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา เคียงข้าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์มาแล้วระยะเวลาค้าแข้งกับ ทีมนาโปลี ก่อนเขยื้อนมาอยู่ กลุ่มเชลซี ตราบปี 1996 แต่ตลอดระยะเวลา 7 ปี ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ศูนย์หน้าร่างเล็กพาเหล่าคว้าแชมป์ 6 รายการ ยกเว้น ศึกพรีเมียร์ลีก





11.ร็อบบี่ ฟาวเลอร์ ตำแหน่งกองหน้า

ซึ่งดาวยิงสูงสุดอันดับ 6 ของ ศึกไฮไลท์พรีเมียร์ลีก จำนวน 162 ประตู เขานั้นมีสัญชาตญาณในการจบสกอร์ที่เยี่ยมยอด และได้พา กลุ่มหงส์แดง คว้าโทรฟีมากมาย ทั้ง

  1. เอฟเอ คัพ
  2. ลีก คัพ 2 ช่วงเวลา
  3. ยูฟ่า คัพ 
  4. ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 


แต่ว่าก็ไม่เคยจับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก เลย

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

โปรแกรมบอล: เท่าที่เจอร์ราร์ด กับข้าวการพิพากษาใจ ที่กลับตาลปัตรชีวิต

พอเจอร์ราร์ด กับการปลงใจ ที่เปลี่ยนชีวิต




วิเคราะห์บอลคงพูดไม่ผิดนักสมมตจะทำนูลว่า ภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ในชุดเสื้อสีอื่นที่นอกเหนือจากสีแดงเพลิงของเหล่าลิเวอร์พูล นั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจินตนาการของเหล่า Kopites ทั้งปวง

ซึ่งหมู่มวลค็อปชนนั้นไม่เคยคิดมาก่อนแม้สักเวลานาทีว่ากัปตันพวกยอดดวงใจของพวกเขานั้นจักจากสโมสรแห่งนี้ไปอยู่กับคณะใดอีก เพราะว่าเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้

แต่ว่าสิ่งที่ทุกคน เชื่อ นั้นคือเจอร์ราร์ด จักอยู่กับ พวกลิเวอร์พูล สโมสรเดียวตลอดไปจนเลิกเล่นฟุตบอล มีสถานะเป็น One-man-club เป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่รับใช้สโมสรไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายในเกมลูกหนัง

แต่ว่าน่าเสียดายพร้อมด้วยน่าเสียใจที่สิ่งเหล่านั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น ครั้นสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เตรียมประกาศการตกลงใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต

ที่ว่าเขาคงต้องไปจาก ถิ่นแอนฟิลด์แล้วหลังจบฤดูกาลนี้

ซึ่งความแน่แท้แล้วเจอร์ราร์ด เคยมีโอกาสที่จะไปจาก คณะฟุตบอลลิเวอร์พูล มาก่อนครับ พร้อมทั้งเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงมากด้วยอย่างน้อยถึง 2 ครั้งด้วยกัน




ในครั้งแรกในช่วงหลังจบฤดูกาล 2003 - 2004
พร้อมทั้ง.oอีกครั้ง  ซึ่งใกล้เคียงยิ่งกว่าในช่วงหลังจบฤดูกาล 2004 - 2005 เพราะว่าทั้งสองครั้งเป็น หมู่เชลซี ที่พยายามจักเจรจาเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมพวกให้ได้ พร้อมทั้งครั้งหลังนั้นเจอร์ราร์ด ตอบตกลงด้วยวาจาไปแล้ว

แต่ว่าในคืนสุดท้ายหลังทบทวนตัวเองอย่างดี เสียงของหัวใจสนทนากับเขาว่า แม้การไปอยู่ หมู่เชลซีจะทำให้เขามีโอกาสประสบความสำเร็จมากมาย แต่จักไม่มีเสื้อสีไหนนอกจากสีแดงของลิเวอร์พูล สนามใดนอกเหนือจากแอนฟิลด์ ด้วยกันแฟนบอลกลุ่มไหนนอกเหนือจากเหล่า พวกเดอะ ค็อป ที่เขาต้องการรับใช้

ตัวของเจอร์ราร์ด จึงไม่ได้เป็นพ่างกัปตันกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่

แต่ว่าเขายังเป็นผู้รับใช้สโมสรที่จงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่งด้วย





รวมทั้งโอกาสของความสำเร็จ ด้วยกันเงินตราไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการทำให้ได้คือการนำ ทีมลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งการจักทำให้ได้เช่นนั้น นั่นหมายถึงการ เสียสละ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

แต่ว่าในขณะที่ซูเปอร์สตาร์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส กับหลุยส์ ซัวเรซ เเล่าลือกที่จักทิ้งสโมสรอย่างฝ่ายลิเวอร์พูลไปเพราะว่ารู้ถึง ศักยภาพ ของยักษ์หลับในอดีตว่าเป็นเรื่องยากที่จะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

ดังนั้นเจอร์ราร์ด ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่กล้าปฏิเสธสโมสรอย่าง กลุ่มบาเยิร์น มิวนิค พร้อมด้วย กลุ่มเรอัล มาดริด เพื่ออยู่ที่แอนฟิลด์ต่อจากนั้น

ก็ไม่มีใครรู้ครับว่าน้ำหนักของ ความรับผิดชอบ ที่เจอร์ราร์ด แบกรับแทนทุกคนตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเป็นกัปตันกลุ่มนั้นหนักหนาแค่ไหน

ซึ่งมีปางเขาเท่านั้นที่รู้และรับไว้ด้วยความเต็มใจ เพราะมิได้ปริปากใดๆไฮไลท์พรีเมียร์ลีก

ถึงแม้จักไม่อาจจะบรรลุภารกิจในการนำพาสโมสรกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้ โดยเฉพาะกับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งทำได้ดีที่สุดเหมือนแค่การเป็นรองแชมป์ 3 ครั้งในฤดูกาล
2001 - 2002
2008 - 2009
2013 - 2014

ซึ่งก็ได้จบลงอย่างโศกนาฏกรรม จนกระทั่งเจอร์ราร์ด เป็นคน ลื่นล้ม กับ ให้เป็นอิสระให้โอกาสครั้งเดียวในชีวิตของเขาหลุดมือไป

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาพร้อมกับเหล่าเดอะ ค็อป นั้นมี ความทรงจำ ที่งดงามร่วมกันมากมาย

นับจากวันแรกที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง สู่ประตูแรกที่สวยงามในเกมกับเชฟฟิลด์ เวย์นสเดย์ ก้าวสู่การเป็นกองกลางตัวหลักของกรุ๊ป ด้วยกันการเป็นกัปตันฝ่าย

ซึ่งจาก ปาฏิหารย์ที่อิสตันบูล กับโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 2005 สู่ ปาฏิหารย์แห่งคาร์ดิฟฟ์ กับโทรฟี่เอฟเอ คัพ ในปี 2006



ดังนั้นเจอร์ราร์ด เป็นทั้งแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งศูนย์รวมใจของ เหล่าลิเวอร์พูลตลอดมา

แต่ว่า ตราบวันเวลาเดินทางมาถึงวันที่แข้งขานั้นไม่แข็งแรงเหมือนก่อน พละกำลังไม่มีเหมือนเก่า นักฟุตบอลผู้ทระนงในการเล่นอันสง่างามของตัวเองอย่างเจอร์ราร์ด ยังไม่อาจตัดใจยอมรับสภาพของตัวเองได้

ซึ่งรายได้พร้อมทั้งระยะเวลาในให้คำมั่น 12 เดือนที่ พวกลิเวอร์พูล เพิ่งจักมอบให้ในเดือนพฤศจิกายน

- ซึ่งนี่จักเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นคำถามว่าเหตุใดบอร์ดบริหารhttp://sport.sanook.com/football/premierleague/จึงดำเนินการล่าช้าขนาดนี้

- ด้วยกันไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกว่าเขา นักฟุตบอลผู้เคยเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล จะต้องตกอยู่ในฐานะตัวสำรองที่ต้องเฝ้ารอโอกาสตัวเองอย่างอดทน ไม่ใช่หรือถ้าลงตัวยิ่งก็ถูกตราหน้าว่าเป็น ตัวถ่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากในความรู้สึก

ถ้าสมมติว่าอยู่อย่างนี้ สู้จากไปเสียดีกว่า ไปค้นหาความท้าทายใหม่ในบั้นปลายของชีวิตการเล่น ไปในที่ที่เขายังเชี่ยวชาญเป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้ง

ซึ่งก็ไม่มีหนทางใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ดังนั้นนี่จึงเป็นการปลงใจ เพื่อตัวเอง ครั้งแรกพร้อมด้วยครั้งเดียวของเจอร์ราร์ด เป็นการ ตัดสินใจแห่งชีวิต ที่เดอะ ค็อปทุกคนควรต้องยอมรับกับ ปลงให้เขาได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่นกันกับเพื่อให้สโมสรได้ก้าวเดินต่อจากนั้นข้างหน้าไม่ต้องเสียเวลากังวลกับไม้ใกล้ฝั่งเช่นเขาอีก

พร้อมกับการตัดสินใจครั้งนี้ยังทำให้ทุกคนได้ ตระหนัก ถึงความยิ่งใหญ่ของนักฟุตบอลคนนี้อีกครั้ง เพราะบางทีการมองจากเบื้องหน้านั้นเราอาจไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเจอร์ราร์ด ได้เท่ากับการมองจากเบื้องหลังในวันที่เขาต้องไป

ถึงแม้ว่าเจอร์ราร์ด จักไม่ได้ลงนามในรับปากฉบับสุดท้ายที่สโมสรมอบให้ พร้อมกับแม้จักต้องร่ำลาจากกันไปก่อนในวันนี้

แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อตารางบอลสโมสรตลอดระยะเวลา 16 ปีในการเป็นนักเตะ กับอีก 25 ปีที่ใช้ชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ พร้อมทั้ง 34 ปีที่มอบทั้งกายด้วยกันใจให้แก่ลิเวอร์พูล สโมสรรักแรกพร้อมทั้งรักเดียว

ถ้าหากต่อให้จะไม่ได้สถานะ One-man-club เหมือนเจมี่ คาร์ราเกอร์ - แล้วเจอร์ราร์ด นั้นยังคงเป็นตำนานหมายเลขหนึ่งในดวงใจของเดอะค็อปชนเสมอ ในฐานะ มิสเตอร์ ฝ่ายลิเวอร์พูล ที่ไม่มีใครอาจทดแทนได้ตลอดกาล

ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่เจอร์ราร์ด จักมอบให้แก่เดอะ ค็อป คือ ข้อผูกพันใจ ที่จักสาธยายกล่าวกับทุกคนว่าอย่าได้เศร้าเสียใจนาน

ก็เพราะว่าว่าการจากลาครั้งนี้เป็นปางชั่วคราวเท่านั้น

ซึ่งครั้งถึงเวลา เขาจักกลับมา ด้วยกันจะไม่มีวันจากไปไหนอีก !!

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟุตบอล: ตำหนิจักไม่ไหนแล้วนะ!!! อย่างไรก็ตามสัมผัสร่ำ ขอเอื้อนสักทีแล้วล่ะ

ต้องพูดถึงแล้วนะเหตุด้วย ภาษาอังกฤษสำเนียงเมียเช่า?




ซึ่งในหลาย ๆ วันที่ทะลุทะลวงมา ท่ามกลางกระแสวิเคราะห์บอลไทย ที่กลบทุกกระแสข่าว บนโลกออนไลน์ เสียงชื่นชม และร่วมกันอิ่มเอิมกับสิ่งที่เรียกว่า ความสุข ของชาวไทย คือความรู้สึกที่เราช่วยกันแชร์ต่อถึงห้วงเวลาที่แสนดีครั้งนี้

แต่ว่าส่วนตัวผม ก็เชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกว่า ตลอดสัปดาห์ที่ตัดผ่านมา มีมนุษย์อยู่หนึ่งคน ที่ทำให้ความรู้สึกของกองเชียร์ ที่กลับมารักด้วยกันศรัทธาในเกมลูกหนังตั้งคำถามว่า ผู้ชายคนนี้ มันต้องการอะไรจากสังคม

ถูกต้องแล้วครับ ผมกำลังพูดถึงการโพสข้อความเปลี่ยนเฟซบุคส่วนตัวของอาจารย์จากมหาลัยดัง ที่ถูกแย้มแพร่พร้อมกับแชร์จากนั้นในวงกว้าง ถึงแนวคิดอันสุดโต่ง กับกีฬาฟุตบอล

โดยที่ผมบ่งบอกตรงนี้เลยนะครับ ตลอดอาทิตย์ที่ทะลวงมา แม้อาจจะเห็นข้อความของอาจารย์ท่านนี้ เปลี่ยนการแชร์อย่างมากมาย แต่ผมก็คิดว่ามันก็เป็นแค่พวกมุ่งหมายทวนกระแส พร้อมกับอยู่แค่กลุ่มเล็กๆ เผลอๆ รู้สึกไปคนเดียวด้วยซ้ำ

แต่ว่าหลายๆ คนคงอาจมีคำถามอยู่บ้างว่า ทำไม ข่าวคนนี้ถึงไม่อยู่ใน บนข่าวกีฬาผลบอลของเว็บ Sanook.com เลย

ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า ผมเองพร้อมทั้งพี่ๆ ในกลุ่มงาน มองเป็นทำนองเดียวกันว่า เราไม่ควรที่จักให้ค่า กับสิ่งที่เขาพูด

แต่ในทันทีที่โพสขบวนล่าสุด ของมนุษย์ผู้ถูกคนตามจวกกว่าค่อนประเทศ โพสตำหนิ การให้สัมภาษณ์ของ โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ว่า พูดภาษาอังกฤษสำเนียงแบบเมียเช่าฝรั่งพัทยา




แค่แว๊บแรกที่ผมเห็น แจ้งตามตรงว่า จุกในลำคอ พร้อมกับในสมองคิดอย่างเบาๆว่า ไอ้...มันต้องการอะไร (เว้นช่องให้เติมกันเองแล้วแต่สะดวกครับ)

กับเฟซบุ๊คคือพื้นที่ส่วนตัว ใครก็ไม่ชอบใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องเข้ามาดูเข้ามาอ่าน อันนี้ผมไม่เถียงซักแอะ

แค่แต่ว่า ไอ้ประโยคที่ พูดในทำนองเหยียดหยาม ด้วยกันกดคนอื่นว่าต่ำกว่าตน แบบนี้มันสมควรแล้วหรือที่จะโผล่ออกมาจากบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น ครูบาอาจารย์

เพราะที่ โค้ชซิโก้ ไม่ได้เกิดมาเพื่อพูดภาษาอังกฤษให้สำเนียงเหมือนต้นแบบ เขาเกิดกับโตมากับฟุตบอล เส้นทางเกินกว่าครึ่งชีวิตเขาก็มาจาก ฟุตบอล

แต่ว่าภาษาอังกฤษ ที่เขาต้องพูด ก็เพราะต้องการสื่อสารให้เข้าใจกับ ผู้สื่อข่าวต่างชาติที่ยิงคำถามต่างๆนานา มันก็เท่านั้น

ก็อย่าลืมว่า การเข้ามารับงานโค้ช พร้อมกับพาทีมชาติไทย ก้าวขึ้นไปหยิบแชมป์อาเซียน มันคือสิ่งที่หลายคนในประเทศนี้ไม่มีโอกาสได้ทำ พร้อมกับต่างว่าได้ทำก็ไม่รู้จักทำได้เยี่ยงเขาไม่ใช่หรือเปล่า

ซึ่งการเริ่มต้นวิ่งชนกับความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าใครจักทำได้ การที่เขาได้เข้ามายืนในตำแหน่งแห่งความหวัง ที่คนไทยต่างเฝ้ารอความฝันอันสูงสุด มันคือยุคบุกเบิกต้น

โดยที่นักเตะอายุน้อย ด้วยกันโค้ชอายุน้อย กำลังจักร่วมกันสร้างคณะแห่งอนาคต อย่าให้คนเพียงคนเดียวเข้ามาทำให้ พวกเขาห่อเหี่ยวหัวใจเลยครับ

พร้อมกับถ้าสมมุติอาจารย์ท่านนี้ ที่พกดีกรีนู่นนี่นั่น คุณวิจารณ์ในศาสตร์และวิชาที่คุณถนัด อันนี้ใครจักว่าคุณได้ ตามสบายเลยลูกเพ่

เท่าแต่ที่บ่งบอกว่า

  • ชัปปุยส์ติดพวกชาติเพราะหล่ออย่างเดียว
  • ซิโก้ไม่ควรเป็นโค้ชเพราะว่าอายุน้อย 


ซึ่งมันชัดว่ามันเตือนว่าคุณ ดูบอลเป็นหรือไม่ก็ไม่เป็นกันแน่

ในส่วนลูกสมุนของมนุษย์ท่านนี้ ก็เข้ามาเห็นด้วยครับอาจารย์ พร้อมกับ ร่วมกันสรรเสริญว่าถูกต้องครับอาจารย์ ผมละ สะอิดสะเอียนจนประสงค์จักสำรอกออกมา





ด้วยเหตุกับผลคือสิ่งที่ไม่มีวันตาย ชัปปุยส์ ถ้าตัดความหล่อออกไป เขาก็ยังคู่ควรกับโปรแกรมบอลกรุ๊ปชาติไทยอยู่ดี ถามว่ามันผิดด้วยเหรอ ที่ดันทะลึ่งเกิดมาหน้าตาหล่อ

ในส่วนแนวคิดว่า โค้ชที่ดีพร้อมทั้งจักประสบความสำเร็จต้องอายุ 50 ปีขึ้นไป คำตอบมีให้เห็นแน่นอนอยู่ทั่วโลก ว่าอาจารย์ท่านนี้พูดมามันใช่เหรอ

โดยที่รูปแบบพร้อมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิตของ โค้ชซิโก้ ที่พร้อมจักเป็นแบบอย่าง ให้คนรุ่นหลังได้เดินตาม กำลังถูกว่าร้ายแบบไร้ซึ่ง เหตุผล

ถึงแม้จักเป็นในวงแคบๆ ของคนจิตใจแคบพร้อมด้วยตีบตัน ผมว่ามันไม่สมควร อันนี้ใครจะเห็นต่างก็ไม่ว่ากันครับ

ก็เอาเป็นว่า ถ้าทำแบบนี้แล้วมีความสุข ก็ขอให้โชคดีนะอาจารย์ ผมคนหนึ่งละที่มองตรงกันข้ามกับอาจารย์ทุกอย่างที่อาจารย์ว่ามา เฉพาะเรื่องฟุตบอลนะครับ

พร้อมทั้งผมคงไม่ผิดใช่มั้ยที่จะบ่งบอกว่า คุณก็มีดีในศาสตร์ของคุณ ผมเองก็มีดีในศาสตร์ของผมเช่นกัน

พ่างแต่ว่าลูกผู้ชายอย่างผมก็ ไม่เคยแม้จะเอื้อนเอ่ย หรือว่าวิจารณ์ ในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดเลยสักนิด

วิเคราะห์บอลวันนี้ทุกคู่  โดย บ.ส้มซิ่ง

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

โปรแกรมบอล:ฝ่ายเรอัลมาดริด พึงจัดจำหน่าย เบลหรือไม่?

พวกเรอัลมาดริด ควรขาย เบลเหรอไม่?




แฟนบอลวิเคราะห์ผลบอลกว่า 3 หมื่นกว่าคน ที่เยี่ยมชม เว็บไซต์อาส สื่อกีฬาชื่อดังของประเทศสเปน เพราะว่าในหัวข้อที่เปิดให้รวมโหวตว่า แกเร็ธ เบล สมควรอยู่ราชันชุดขาวต่อหรือไม่ไม่นั้น มีถึง 53 เปอร์เซ็นต์ ที่เห็นด้วย

เพราะว่าสืบเนื่องมาจากที่มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่าง กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นมีแผนจักใช้งบเกือบสูงถึง 120 ล้านปอนด์ หรือถ้าเทียบเป็นเงินยูโร ก็แค่ 150 ล้าน เท่านั้นเอง ในการดึงปีกชาวเวลส์ มาร่วมพวก

พร้อมด้วยเมื่อไปสัมภาษณ์กับ หลุยส์ ฟาน ฮัล กุนซือชาวดัตช์ของ ทีมผีแดง ก็ปรากฏว่าเจ้าตัวก็เลี่ยงที่จักไม่ตอบคำถาม เขาหนีไปพึ่ง ซีอีโอของกรุ๊ปว่า เขาหมายจะคุยเรื่องนี้เฉพาะกับผู้บริหารของพวกเท่านั้น ไม่ใช่สื่อมวลชนใดๆ ทั้งสิ้น

พร้อมด้วยสมมติว่า คณะผีแดงยื่นเงินมหาศาลจำนวนเงินขนาดนั้นเข้ามาแน่แท้ๆ นั่นเท่ากับว่า จะทำลายทุกสถิติ รวมถึงสถิติ ของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เพื่อนร่วมหมู่ กับ สถิติของตัวเอง ทั้งหมดอีกต่างถ้าหาก




ซึ่งถึงแม้ว่าจำนวนเงินดังกล่าว จักยังไม่ได้ถูกยื่นเข้ามายิ่งๆ จังๆ ตามข่าว แต่ทว่าแฟนบอลที่ติดตามฟุตบอลสเปน ในเว็บไซต์กีฬาอาส เกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ก็อยากได้เงิน 150 ล้านยูโร มากกว่า แกเร็ธ เบล เสียแล้ว

กับถ้าเอาเข้าครันตารางบอล จำนวนนี้ก็มากพอที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ จักเนรมิตรอะไรในหมู่ใหม่ก็ได้ รวมถึงชื่อสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาบิว ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนชื่อไปตามสปอนเซอร์อภิมหาเศรษฐี เจ้าของกลุ่มทุนปิโตรเลียมจากตะวันออกกลาง ก็อาจจะต้องแหวกประเพณีไปใช้ชื่ออื่น

เพราะว่าที่เป็นไปได้ว่าแฟนบอลที่เห็นด้วย หิวได้เงินมารักษาประเพณีของลาลีกา กับ ความมั่นคงของสโมสรทีมฟุตบอลในสเปนมากกว่า จักรั้งซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งไว้

ไม่ใช่หรือนั่นอาจเป็นแฟนบอลกรุ๊ปอื่นๆ ที่หวังจักให้ เบล ไปจาก ทีมเรอัล มาดริด นั่นแปลว่า เขาอยากได้จักให้ คณะราชันชุดขาว เหโจษจันแค่ โรนัลโด้ ทางฝั่งซ้ายเท่านั้น จักทำให้กองหลังคณะอื่นๆ งานเบาขึ้นมากหลาย




แต่นั่นก็จักมีเบล เหรอ ไม่มีเบล เกี่ยวกับทีมเรอัล มาดริด ก็เคยเอาตัวรอดมาได้แล้ว ในช่วงที่ปีกพญาวานรบาดเจ็บ ในนัดที่ไปเยือนอัลเมเรีย รวมถึงนัดที่เปิดบ้าน กลับมาชนะ กลุ่มบาร์เซโลน่า 3-1 เท่าที่ปลายเดือนตุลาคมที่ทะลุมา

โดยที่นักเตะอย่าง อิสโก้ กับ ฮาเมส โรดริเกซ ก็อาจจะเล่นเป็นตัวในก็ได้ ไม่ใช่หรือริมเส้นก็ดี คาร์โล อันเชล็อตติ ใช้สองคนนี้ เล่นแทนได้อย่างไม่เขอะเขิน แม้คุณภาพความเร็ว จักเป็นรอง แกเร็ธ เบล พอสมควร

แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้ง อิสโก้ กับ ฮาเมส มีประโยชน์กับเกมแถวๆ ตรงกลางมากกว่า ที่จะให้ไปกระชากพร้อมด้วยวิ่งที่ริมเส้น เพราะว่าคราใดที่ ลูก้า โมดริช เจ็บ สองคนนี้รักษาสมดุลตรงกลางสนามได้อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ สมมุติต้องมีคนใดคนหนึ่งมาแทนเบลแบบตายตัวแล้ว ตรงกลางสนามจักดูแลเกมกันไม่ได้อย่างที่เป็นทุกวันนี้

ในบางครั้งที่ ตัวของเบนเซม่า นั้นบาดเจ็บ ส่วนฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เฮอร์นานเดซ อาจจะเล่นไม่ได้มาตรฐานกับเฟรนช์แมน แกเร็ธ เบล ยังเป็นได้ไปเล่นหน้าเป้าได้ด้วยซ้ำ เหมือนที่ทำกับเหล่าชาติเวลส์




ซึ่งถ้า เหล่าเรอัล มาดริด นั้นประสงค์จักขายนักเตะเพื่อจำนวนเงินมหาศาลแน่นอนๆ นักเตะที่พวกเขาไม่ใช้ อย่าง

  • คาเซมิโร่
  • อาเซียร์ อิญาร์ราเมนดี้ 

นั้นควรจะอยู่ในบัญชีนี้มากกว่าอีก อย่างน้อยๆ สองคนนี้ ต้องเข้ากระเป๋าสัก 30 ล้านยูโร

พร้อมกับด้วยฟาบิโอ โคเอ็นเทรา กับ ราฟาเอล วาราน ก็เนื้อหอมใช่ย่อย สมรรถเรียกสนนราคาได้สูงๆ จากสองแข้งแนวรับนี้แน่นอน

ภายหลังที่ตัวผมเกริ่นมาทั้งหมด ในการยอมขายพวกตัวรับ มากกว่าที่จะให้ เบล ออกจาก เหล่าเรอัล มาดริดไปยิ่งๆ คงหนีไม่พ้นเกมรุกที่เอ็นเตอร์เทนแฟนบอลได้อย่างดีของพวกเขา

เพราะที่แกเร็ธ เบล ได้ลงพร้อม กับ ตัวโรนัลโด้, กับฮาเมส กับ อิสโก้ เห็นๆ กันอยู่ว่าโคตรหลากหลาย เกมรับจะเป็นยังไงผมไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าฟุตบอลถ้าหากจักเสียประตูบ้าง ผมมองว่ามันเป็นสีสัน

ในการทำประตูเป็นจุดขายของ ลาลีกา มานานแล้ว กว่า 1045 ประตูในซีซั่น 2013-2014 เป็นรอง พรีเมียร์ลีก แค่พาง 7 ประตูเท่านั้นในซีซั่นเดียวกัน




เพราะว่าฉะนั้นนี่คือลีกฟุตบอล ที่เน้นเกมรุกที่เร้าใจ ไม่ว่าเหล่าเล็กๆ อย่าง ฝ่ายเออิบาร์ พร้อมทั้งเหล่าดาวรุ่งอย่าง กลุ่มบีญาร์เรอัล พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะเล่นรับกันเลยแม้เจอกับกลุ่มใหญ่ ทำให้ผมชอบนักเตะเกมรุก มากกว่าเกมรับเป็นแน่แท้

แล้วเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดของ กลุ่มเรอัล มาดริด มีคลาสพวกที่ไม่เป็นรองใครในโลก สมมติว่ามีพวกใดจะมาซื้อนักเตะที่พวกเขาใช้งานอยู่ไป นั่นหมายความว่าต้องเป็นพวกที่ดีกว่า ทีมเรอัล มาดริด เท่านั้นไม่ใช่หรือเปล่า

นั่นมันเหมือนหยามหน้า ยอดทีมเบอร์หนึ่งของโลกเวลานี้ชัดๆ

ด้วยกันสมมติว่าผมเป็นประธาน กรุ๊ปเรอัล มาดริด แล้วมีข้อเสนอยื่นมาจริงๆ 200 ล้านปอนด์ผมก็ไม่ขาย แล้วทำให้เป็นข่าวออกสื่อด้วย นอกจากจะได้ใจแฟนบอลที่ตามเชียร์เรอัล ก็เพราะว่าซูเปอร์สตาร์แล้ว

ทั้งยังเพิ่มระดับความไฮเอนด์ให้กับหมู่เป็นทวีคูณ เพราะนี่คือ เหล่าเรอัล มาดริด ชุดสีขาว ที่นักบอลอยากได้ใส่กันนักกันหนายังไงเล่า

Palm